Posted inบทความของเรา ฟิลเลอร์ โบท็อก 7 ข้อแตกต่างของ ฟิลเลอร์ กับ โบท็อกซ์ June 22, 2023 สารบัญ ข้อแตกต่างที่ 1. ฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์มีตัวยาแตกต่างกัน ฟิลเลอร์ คือ สารไฮยาลูรอนิค แอซิด เป็นสารทดแทนสารที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ เมื่อมีอายุมากขึ้น คอลลาเจน กล้ามเนื้อ หรือ กระดูกอาจจะหายไป จึงต้องมีการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อช่วยเติมเต็ม หรือ พยุงโครงสร้างใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง และ ช่วยในการปรับรูปหน้า โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินัม ท็อกซิน เป็นโปรตีนที่มาจากแบคทีเรีย โดยแบคทีเรียชนิดนี้มีพิษ ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายไม่ขยับชั่วคราว เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ขยับมากเกินไปจะทำให้เกิดริ้วรอย เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไป จะส่งผลให้ริ้วรอยจางลง ข้อแตกต่างที่ 2. การรักษาริ้วรอย ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็ม จึงใช้ในการแก้ปัญหาร่องลึก หรือ ริ้วรอยถาวรให้ดูตื้นขึ้น หรือฉีดเพื่อพยุงโครงสร้างของผิว บริเวณที่ต้องการการเติมเต็ม เช่น ริ้วรอยบริเวณร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใต้ตา หน้าผาก ขมับ ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น โบท็อกซ์ จะรักษาริ้วรอยที่เกิดตอนแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก หางตา(ตีนกา) หว่างคิ้ว ใบหน้าดูเรียวขึ้น ตัวอย่างเช่น หางตา เมื่อเรายิ้มหากกล้ามเนื้อบริเวณหางตาไม่ขยับจึงทำให้ไม่มีรอยตีนกา ข้อแตกต่างที่ 3. ระยะเวลาในการเห็นผล ฟิลเลอร์ ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองของอย.ประเทศไทย มีประเภทเดียว ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ประเภทไม่ถาวร สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% อยู่ได้ประมาณ 12 – 24 เดือน หลังจากฉีด จึงไม่เป็นอันตราย โบท็อกซ์ จะอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน หลังจากฉีด ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าสามารถตอบสนองต่อยาได้มากน้อยเพียงใดขนาดกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงการผสมยา และยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ฉีด ข้อแตกต่างที่ 4. สามารถฉีดได้ทุกส่วนบนใบหน้า ฟิลเลอร์ เมื่อเป็นสารเติมเต็ม จึงนิยมฉีดบริเวณไขมันชั้นลึก บริเวณโครงกระดูก หรือ บริเวณส่วนที่หายไป เพื่อให้ได้การเติมเต็มที่ดูเป็นธรรมดา และ ช่วยแก้ปัญหากระดูกที่หายไป โบท็อกซ์ ฉีดเพื่อให้ออกฤทธิ์ที่ชั้นกล้ามเนื้อ มักเห็นผลได้ดีในบริเวณหางตา หว่างคิ้ว หน้าผาก หากฉีดบริเวณที่ต่ำไปกว่านี้ เช่น แก้มอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมาได้ ข้อแตกต่างที่ 5. ใช้ในการปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์ จะฉีดใต้ผิวเพื่อให้ช่วยพยุงโครงสร้างผิวที่หย่อน โดยโครงสร้างผิว หมายถึง แนวกระดูก เส้นเอ็นที่พยุงหน้า หรือ ไขมันชั้นลึก โบท็อกซ์ จะฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อของกรามลง จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเล็กลง จะเหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อกล้ามใหญ่ช่วยในการ Lift กรอบหน้า โดยฉีดกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าเราลง (กล้ามเนื้อนี้จะทำให้หน้าเราหย่อน) เมื่อฉีดโบท็อกซ์ กล้ามเนื้อถูกคลาย หน้าจะดูกกระชับตึงขึ้น รวมถึงกรอบหน้าจะชัดขึ้นด้วย ข้อแตกต่างที่ 6. รูปแบบการบรรจุผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์ จะเป็นเนื้อเจลสีใส ๆ บรรจุอยู่ในไซริ้งค์ มีปริมาณ 1 CC โบท็อกซ์ จะเป็นผงสีขาว ๆ บรรจุอยู่ในขวด มีปริมาณ 50, 100 หรือ 200 ยูนิต โดยจะต้องผสมน้ำเกลือเข้าไป เพื่อให้อยู่ในรูปของสารละลาย จึงจะสามารถนำมาฉีดบนใบหน้าได้ ข้อแตกต่างที่ 7. ผลข้างเคียงในการฉีด ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์อาการทั่วไป มักมีอาการบวม รอยช้ำ สามารถหายได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์อาจมีการติดเชื้อ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นเนื้อเจล จึงมีโอกาสที่แบคทีเรีย หรือ เชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย และ เกิดการติดเชื้อได้ มักเกิดในคลินิกที่ไม่ได้รับมาตรฐาน (คลินิกเถื่อน)อันตรายร้ายแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากฉีดฟิลเลอร์ไปโดนหลอดเลือด หรือ ฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ในกรณีนี้มักพบในผู้ฉีดที่ไม่ใช่แพทย์ (หมอเถื่อน)ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์หากฉีดไปโดนกล้ามเนื้อที่แสดงสีหน้า จะทำให้หน้านิ่งไม่ขยับ เช่น ฉีดไปโดนที่กล้ามเนื้อยิ้ม จะทำให้ไม่สามารถยิ้มได้ , ฉีดไปโดนกล้ามเนื้อเปลือกตา จะทำให้ตาปิด ขยับเปลือกตาไม่ได้ในกรณีที่ร้ายแรง คือ หากฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่มากเกินไป อาจไปกดการทำงานการหายใจ ทำให้หายใจไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตามการฉีดฟิลเลอร์ และ การฉีดโบท็อกซ์ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้รับการรับรองมาตรฐาน จากองค์การอาหาร และ ยา ประเทศไทย สามารถตรวจสอบได้ คลินิกที่ฉีดฟิลเลอร์จะต้องสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข แพทย์ประจำคลินิก ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ และมีความเชี่ยวชาญ มีเทคนิคในการฉีดที่ถูกต้อง และ มีประสบการณ์ ในการดูแลผิวหน้า และ ปรับผิวหน้า รีวิว Moriko Clinic Related posts:เสริมโหงวเฮ้งปาก ด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปากฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?เมโสแฟตคืออะไร? สลายไขมันได้จริงไหม? ฉีดจุดไหนได้บ้าง? Post navigation Previous Post วิธีสังเกต Filler แท้ ดูอย่างไรจึงจะมั่นใจว่าเป็น ของแท้!Next Postปรับหน้าผาก เปิดโหงวเฮ้ง ด้วยการฉีด “ฟิลเลอร์”