สารบัญ
Chelation Therapy (คีเลชั่นบำบัด)
Chelation มาจากภาษากรีก “Chele” ที่แปลว่ากรงเล็บ
คีเลชั่นบำบัด คือ การใช้สารคีเลต เพื่อจับกับโลหะในร่างกายผ่านทางการให้น้ำเกลือ เพื่อให้โลหะที่สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ
ผนังหลอดเลือด สูญเสียความเป็นพิษ หรือ ฤทธิ์ทางสรีรวิทยา และขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ
พิษโลหะหนักที่พบมากที่สุด คือ ตะกั่ว สารหนู หรือปรอท
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการนำสารคีเลตมาใช้ในการแก้พิษของก๊าซพิษที่มีสารหนู และภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้นำมาใช้แก้พิษให้แก่บุคลากรของกองทัพเรือ ที่ได้รับสารตะกั่วอันเป็นผลมาจากการทาสีตัวเรือใหม่
ปัจจุบันทางการแพทย์ได้นำการคีเลชั่นบำบัดมาใช้ในการรักษาผู้ที่ได้รับพิษจากปรอท สารหนู ตะกั่วและพิษจากโลหะอื่น ๆ
แบบเฉียบพลัน
คีเลชั่นสามารถล้างพิษอะไรได้บ้าง ?
คีเลชั่นช่วยอะไรบ้าง?
- ขจัดพิษโลหะหนักออกจากหลอดเลือด
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และ หลอดเลือด
- ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย
- ลดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ลดระดับคอลเลสเตอรอลในเลือด
- ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
- ลดความเสี่ยงพัฒนาการของระบบประสาทที่ช้ากว่าวัย ในเด็ก
- ช่วยให้หลอดเลือดสะอาด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- ช่วยลดตะกรันที่สะสมอยู่ในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
- ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
คีเลชั่นเหมาะกับใครบ้าง?
การทำคีเลชั่นใช้ระยะเวลาเท่าไหร่?
การทำคีเลชั่น คือ การเติมกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA พร้อมด้วย วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญ ที่ช่วยในการจับโลหะหนัก ผ่านทางน้ำเกลือโดยระยะเวลาในการทำคีเลชั่นแต่ละครั้งนั้น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ก่อนทำคีเลชั่นควรเตรียมตัวอย่างไร?
- แพทย์จะซักประวัติ (ควรเตรียมค่าการทำงานของค่าไตก่อนทำ)
- ตรวจโลหะหนักเบื้องต้นด้วยเครื่อง Oligo scan
ทำคีเลชั่นอันตรายไหม?
การทำคีเลชั่น ไม่ควรทำในเด็กเล็ก
การทำคีเลชั่นควรใช้ปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อย หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
จะทำให้แคลเซียมในร่างกายต่ำเกินไป อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ
ผลข้างเคียงเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และ มีความเชี่ยวชาญ
