POTENZA
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการมีใบหน้าเต่งตึงผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ไร้ริ้วรอยตีนกา หรือร่องแก้ม และยังต้องการบำรุงผิวหน้าแบบลงลึกถึงชั้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพไปด้วย ให้หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นถาวร คุณไม่จำเป็นต้องทำหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก บอกได้เลยว่า Potenza โปรแกรมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเส้นใยอิลาสตินที่ช่วยให้ผิวกลับมาเต่งตึงนี้ ตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน ด้วยเครื่องเลเซอร์เทคโนโลยีใหม่นี้ ที่สามารถปรับได้ถึง 4 โหมดคลื่นความถี่ และมาพร้อมกับ Needle Tip มากกว่า 10 Tip ที่สามารถเลือกปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน โดยผ่านการตัดสินใจ และดุลพินิจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมนี้จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงการดูแลผิวหน้าที่ลงลึกถึงชั้นผิว กระตุ้นคอลลาเจน และเส้นใยอิลาสติน ยกกระชับผิว ส่งความเปล่งปลั่งในผิวหน้า และผิวกาย จากภายในสู่ภายนอก ผลลัพธ์ของผิวที่ดีขึ้น เริ่มพิสูจน์ได้ที่ตัวคุณ
POTENZA ช่วยอะไร ?
POTENZA โปรแกรมลดริ้วรอย คือ นวัตกรรมการกระตุ้นการสร้างคอลาเจน และเส้นใยอิลาสตินในชั้นผิว เครื่องเลเซอร์ความงามเทคโนโลยีใหม่ ที่มีการใช้คลื่นพลังงานความถี่วิทยุ RF ถึง 4 โหมดความถี่ ( Mode Radio Frequency Microneedling ) ในการรักษา ได้แก่ MONOPOLAR, BIPOLAR 1 และ 2 MHz และยังมี Needle Tip ซึ่งมีมากกว่า 10 Tip ให้ปรับใช้ความถี่ร่วมกับหัว Tip ได้ตามความเหมาะสมกับสภาพผิวในแต่ละบุคคลได้
โดยในการรักษาด้วยเครื่องนี้ จะเป็นการใช้หัว Tip ที่มีเทคโนโลยี Microneedling เป็นการใช้เข็มขนาดเล็กเป็นตัวส่งผ่านคลื่นพลังงาน RF เข้าไปสู่ชั้นผิวหนัง และปล่อยคลื่นพลังงานออกมาอีกทั้งยังมีระบบ DUAL – AIR สำหรับส่งพลังงาน ด้วยแรงดูด และแรงผลักของอากาศ ช่วยผลักสารอาหาร และวิตามินเข้าสู่ชั้นผิว จะทำให้ผิวได้รับสารบำรุงได้โดยตรงถึง 67% และสามารถฟื้นฟูผิวได้สม่ำเสมอ ครอบคลุมชั้นผิว
ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นผิวด้วยคลื่นพลังงาน RF เนื้อเยื่อจะฟื้นฟูด้วยการสร้างคอลลาเจน และเส้นใยอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวของคุณได้รับการยกกระชับขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ฝ้า กระ ไม่เท่านั้นตัวสารอาหาร และวิตามินที่ถูกผลักเข้าผิวจะยิ่งช่วยให้ผิวอิ่มฟู กระจ่างใสขึ้น คลื่นพลังงานที่ลงลึกในชั้นผิวจะเข้าไปลดต่อมไขมัน จึงทำให้หน้ามันน้อยลง สามารถปรับเม็ดสีผิวให้สม่ำเสมอ และทำลายเส้นเลือดขอด ทำให้เส้นเลือดเรียงตัวกันได้ดี ช่วยลดปัญหารอยแดงบนใบหน้าอีกด้วย
Moriko Plus Clinic
รีวิว Potenza
ทำไม คุณแอน วางใจให้ Moriko Plus Clinic
ดูแลฝ้า รอยสิว รอยจุดด่างดำ ปรับรูปหน้า ด้วยโปรแกรม Potenza ลองฟัง
“ผลลัพธ์ในภาพเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์การช่วยเรื่องสุขภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน“
Moriko Plus Clinic
ทีมแพทย์มากประสบการณ์
นายแพทย์ นริศ บุญธนภัทร
- Phone:065-463-6699
คุณ อรวรรณ เจียรสุข
- Phone:065-463-6699
คุณ วีณากร สุทธิรักษ์
- Phone:065-463-6699
Moriko Plus Clinic
มาพร้อมห้องหัตถการใหม่ กว้างขวางเป็นส่วนตัว
บริการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ยกกระชับ
ให้คำปรึกษา
และออกแบบรูปหน้าโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ทุกเคส
ข้อดี
- ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และ Thai FDA
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเส้นใยอิลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
- สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น หน้า คอ หลังมือ หน้าท้อง ฯ
- แผลไม่ตกสะเก็ด ไม่มีรอยช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ลดกระ ลดฝ้า ได้มีประสิทธิภาพ
- ช่วยทำให้เส้นเลือดเรียงตัวได้ดีขึ้น ทำลายเส้นเลือดขอด รอยแดงบนใบหน้าลดลง
- หัว Tip สามารถผลักสารอาหาร และวิตามินเข้าสู่ชั้นผิวได้ในขั้นตอนเดียว
- รักษาปัญหาผิว สิวอักเสบ และสิวอุดตัน ได้อย่างตรงจุด
- ลดริ้วรอย รักษาผิวแตกลาย ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส
- พลังงานคลื่นความถี่ RF จะช่วยทำให้ต่อมไขมันฝ่อลง จึงทำให้หน้ามันน้อยลง
- กำจัดเชื้อโรค รวมถึงแบคทีเรียที่กินไขมันเป็นอาหาร เนื่องจากต่อมไขมันลดลง
- พลังงานที่หัว Tip ปล่อยออกมาไม่สะสมอยู่ที่ผิวชั้นนอกจึงไม่ทำให้ผิวคล้ำ
- ผลอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน ตามการดูแล และสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการ
- แพทย์จะปรับแผนการรักษาตามรายบุคคล ผลลัพธ์ที่จะได้จึงมีความเฉพาะตัว และเหมาะสมสำหรับผู้เข้ารับบริการ
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่มีการใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ผู้ที่เคยมีการร้อยไหมทองในบริเวณที่ต้องทำการรักษา ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- จะเกิดรอยแดงหลังการรักษา แต่จะหายไปได้เองในเวลา 3 – 4 ชั่วโมง
- ผู้ที่มีการใช้ยารักษาสิว Accutane (isotretinoin) ในช่วงระยะ 6 – 12 เดือน และหากยังมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ที่ภาวะแทรกซ้อน และมีความเสี่ยงอาจเป็นโรคเบาหวาน ต้องมีการปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาชา ควรแจ้งชื่อยาชาที่แพ้กับแพทย์ก่อนทุกครั้ง เมื่อต้องการเข้ารับบริการ
- ผู้ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ควรเข้ารับบริการ
- ผู้ป่วยโรคเหล่านี้ไม่ควรเข้ารับบริการ ได้แก่ เบาหวาน, ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ, ภูมิแพ้ตัวเอง, ความดันโลหิตสูง, ลมบ้าหมู, เริม, เอชไอวี เป็นต้น
- ผู้ที่มีแนวโน้มจะเกิดคีรอยด์ได้ง่าย ไม่ควรเข้ารับบริการนี้
กระบวนการทำงานของเครื่อง
ขั้นตอนที่ 1
วางหัว Tip Application ลงบนชั้นผิวหนังที่ต้องการทำการรักษา
ขั้นตอนที่ 2
เครื่องจะทำการผลักเข็มลงสู่ชั้นผิว ตามระดับความลึกที่เลือกใช้ในการทำการรักษา
ขั้นตอนที่ 3
เข็มในหัว Tip จะส่งคลื่นพลังงาน Radio Frequency ลงสู่ชั้นผิวตามรูปแบบเข็ม มีผลต่อบริเวณที่จะรักษาตามรูปแบบของหัว Tip ที่เลือกใช้
ขั้นตอนที่ 4
คลื่นพลังงานที่ถูกส่งเข้าไปถึงชั้นผิวโดยตรงจะสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และเส้นใยอิลาสตินเพิ่มขึ้น ทำให้ต่อมไขมันฝ่อ ทำลายเชื้อโรค แบคทีเรีย และมีใบหน้ากระชับมากขึ้น
ประเภทความถี่ 4 แบบ
MONOPOLAR Radio Frequency
คลื่นส่งพลังงานความถี่แบบขั้วเดียว (1 ELEXTRODE) โดยมี PLATE (GROUND PAD) เป็นตัวส่งคลื่นพลังงานลงในผิวชั้นลึก ช่วยในการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวชั้นหนังแท้ และ หนังกำพร้าได้พร้อมกัน
BIPOLAR Radio Frequenc
คลื่นส่งพลังงานความถี่แบบสองขั้ว เป็นการส่งคลื่นพลังงานระดับตื้น แม้ไม่ลงลึกเท่า MONOPOLAR Radio Frequency แต่ก็สามารถส่งคลื่นพลังงานอัดแน่นในบริเวณที่ต้องการได้ ส่วนใหญ่จึงใช้เพียงบริเวณผิวหนังส่วนบน สามารถช่วยยกกระชับเฉพาะส่วนที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1 MHz
คลื่นความถี่ที่น้อยที่สุด เหมาะแก่การกระตุ้นการฟื้นฟูตรงจุดที่ผิวมีความบาง หรือมีริ้วรอยตื้น ๆ
2 MHz
คลื่นความถี่มาก เหมาะแก่การช่วยยกกระชับ และฟื้นฟูผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่ลงลึก และเห็นเด่นชัด
หัว Needle Tip
FUSION TIP
หัวที่มีจำนวนเข็ม 21 เข็ม มีระดับความลึก 0.5 – 2.5 มม. ในหัว Tip นี้มีระบบ DUAL-AIR ที่มีการใช้แรงดูด และแรงผลักของอากาศ
ใช้ในการส่งผ่านยา และวิตามิน เข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกยิ่งขึ้น ซึ่งจะได้รับยาสม่ำเสมอทั่วพื้นชั้นผิว อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสตินได้อีกด้วย
TIGER TIP
หัวเข็มเป็นเข็มกึ่งฉนวน มีจำนวน 16 , 25 และ 49 เข็ม มีระดับความลึก 0.5 – 4.0 มม. เข็มจะแบ่งเป็น 2 ช่วงภายในเข็ม
ในหนึ่งเข็มจะมีการกั้นด้วยฉนวน ทำให้สามารถรักษา รวมไปถึงช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของผิวชั้นหนังแท้ และหนังกำพร้าได้พร้อมกัน
INSULATED NEEDLES
หัวเข็มเป็นเข็มกึ่งฉนวน มีจำนวน 16 , 25 และ 40 เข็ม มีระดับความลึก 0.5 – 4.0 มม. สามารถรักษาปัญหาผิวได้ทั้งระดับตื้น และลึกได้
หัว Tip จะรวมคลื่นพลังงานไว้ในจุดเดียว พลังงานจะถูกอัดแน่น และปล่อยลงในจุดที่ต้องทำการรักษา ถ้าต้องการเน้นเรื่องการกำจัด และฟื้นฟูปัญหาผิว เช่น การรักษาหลุมสิว หรือริ้วรอย การใช้หัว Tip นี้ จึงเหมาะสมในการใช้รักษาปัญหาผิวที่ต้องการความแม่นยำสูง
SINGLE INSULATED NEEDLES
หัว Tip เข็มเดี่ยวสำหรับรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข็มมีระดับความลึก 0.8, 1.2 และ 1.5 มม. มีความแม่นยำสูง
หัว Tip เข็มเดี่ยวจะทำการปล่อยคลื่นพลังงานลงไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้นตอที่ก่อให้เกิดปัญหาสิว ต่อมไขมันในชั้นผิวจะฝ่อลง และผลิตน้ำมันน้อยลง คุณสามารถใช้วิธีนี้เพื่อการรักษาปัญหาสิว เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน ได้
ทำบริเวณไหนได้บ้าง ?
ใต้ตา, หางตา
- ยกกระชับถุงใต้ตาให้ดูตื้น และสว่างมากขึ้น
- กระชับรอยย่นของตีนกาที่หางตา
- ยกกระชับช่วงหางตา และคิ้วที่ตกให้ดูสูงขึ้น
หน้าแก้ม
- ช่วยให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจน
- ซ่อมแซมหลุมสิว ช่วยกระชับรูขุมขน
- รักษาสิวอุดตัน ลดฝ้า ลดกระ
- ปรับเม็ดสีผิว ให้สว่างขึ้น
ลำคอ
- ช่วยแก้ปัญหาคอย่น ดูหย่อนคล้อย หรือมีเหนียง
- ปรับโครงหน้าให้กระชับ และเรียบเนียนขึ้น
หน้าผาก, ขมับ
- ช่วยปรับผิวดูเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอย
- ช่วยปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ดูตื้นขึ้น เช่น ร่องบนหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว และผิวที่ไม่สม่ำเสมอบริเวณขมับ
ร่องแก้ม
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวบริเวณร่องแก้มอิ่มฟูขึ้น
- แก้ไขปัญหารองพื้นตกร่อง และทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้น
กรอบหน้า
- ช่วยยกกรอบหน้าให้กระชับ และดูชัดขึ้นได้
- ช่วยให้แก้มไม่ห้อย ผิวเต่งตึง ดูไม่แก่
เรือนร่าง
- แก้ปัญหาผิวแตกลายตามจุดต่าง ๆ บนร่างกาย เช่น หน้าท้อง มือ บั้นท้าย ต้นขา และคุณแม่หลังคลอด
- ทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยย่น รอยแตกลายที่ผิวหนัง ให้กลับมาเต่งตึง และกระชับขึ้นได้
ก่อนเข้ารับบริการ
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้ว/วัน เนื่องจากการที่ผิวอุ้มน้ำมากจะยิ่งทำให้คลื่นพลังงานความถี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ และจะทำให้ประสิทธิภาพของบริการอาจลดน้อยลง
- งดกิจกรรมที่มีความร้อน และการทำทรีตเม้นท์ทำร้ายผิว เช่น สปา ซาวน่า สครับผิว 7 วันก่อนเข้ารับบริการ การทำกิจกรรมเหล่านั้นอาจทำให้ เกิดการระคายเคือง อักเสบ หรือมีผื่นคัน และเปราะบางได้
- หยุดรับประทานวิตามิน และยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือด หรือ กลุ่มยา NSAIDs
- งดแต่งหน้า และงดทาครีมกันแดดในวันเข้ารับการรักษา
หลังเข้ารับบริการ
การเข้ารับการรักษาด้วยหัตถการ ไม่ว่าจะแบบใดก็ตาม การดูแลตัวเองหลังจากเข้ารับบริการถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อจะรักษาผลลัพธ์ที่ดีให้คงอยู่ยาวนาน และต้องป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
- ควรงดกิจกรรมที่ทำร้ายผิวทั้งหมด เพราะอาจทำให้ผิวอ่อนแอ เป็นแผล และเกิดอาการอักเสบได้
- ดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงที่อ่อนโยนต่อผิว และเน้นในการช่วยเติมน้ำให้ผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นกักเก็บน้ำได้ดี
- ควรล้าง หรือเช็ดผิวด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือ และทำด้วยความเบามือ
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรด น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ 12 – 24 ชั่วโมงหลังการรักษา
- ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดให้มากที่สุด และใช้ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน โดยมีค่า SPF50+ PA++++ เป็นประจำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ และอาจทำให้ประสิทธิภาพการฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวลดลงได้
- งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดการเสียเหงื่อมาก เช่น การออกกำลังกาย หรือซาวน่า ภายใน 24 ชั่วโมงหลังทำการรักษา
Potenza เป็นการทำการรักษาด้วยเครื่องมือที่จะกระตุ้นการสร้างคอลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ริ้วรอย ร่องแก้ม หลุมสิว ดูตื้นขึ้น ลดรอยแดง กระ และฝ้า ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ ผลลัพธ์ที่ได้ ผิวหลังจากทำการรักษาจะค่อย ๆ ดูอิ่มฟูขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงระยะเวลา 4 – 6 สัปดาห์ และคงอยู่ยาวนานประมาณ 6 – 12 เดือน ตามการดูแลของแต่ละคน การทำ Potenza เพียงแค่ปีละครั้งก็ทำให้คุณมีผิวที่อ่อนเยาว์ยาวนานได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำบ่อย ๆ ให้เสียเวลา
Potenza เป็นเทคโนโลยีที่มีดีมากกว่านวัตกรรมการส่งคลื่นพลังงานทั่วไปอย่างไร ?
เนื่องจาก Potenza เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีความหลากหลายในการเลือกปรับใช้หัว Tip และปรับคลื่นความถี่ที่มีถึง 4 โหมดได้ตามความเหมาะกับสภาพผิว จึงสามาถเลือกใช้ความสามารถนี้ได้ตามบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างตรงจุด
รวมถึงการทำงานดังกล่าวมีเทคโนโลยี Microneedling ที่ทันสมัย จึงทำให้บริเวณที่ทำการรักษา ไม่เป็นแผลตกสะเก็ด และไม่ปวดบวม มีเพียงรอยแดงหลังทำเท่านั้น และจะหายไปในเวลา 3 – 4 ชั่วโมงถัดมา และด้วยหัว Tip ที่เข็มมีระบบ DUAL – AIR ช่วยเพิ่มแรงผลักในอากาศทำให้ตัวสารอาหาร และวิตามินเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง จึงทำให้ใช้เวลาไม่นาน ผิวบริเวณที่รับการรักษาก็เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน ที่มีส่วนช่วยเข้าไปเติมเต็มผิว และรวมกับสารอาหาร และวิตามินที่ได้รับไป จึงทำให้ผิวสามารถฟื้นฟูได้ต่อเนื่อง และได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
Potenza VS Thermage จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องใดจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน ?
Thermage เป็นอีกหนึ่งเครื่องที่มีการทำงานคล้ายคลึงกับเครื่อง Potenza เป็นอย่างมาก
เครื่อง Thermage นี้มีการใช้คลื่นความถี่สูง Radio Frequency เหมือนกัน เพียงแต่ Thermage มีโหมดคลื่นความถี่เพียงชนิดเดียวคือ คลื่นพลังงานความถี่แบบขั้วเดียว ( MONOPOLAR Radio Frequency ) การทำงานเครื่องนี้ เป็นการส่งคลื่นความถี่ผ่านหัว Tip ที่มีลักษณะ เป็นแผ่นโลหะขนาดแตกต่างกัน ด้วยคลื่นพลังงานความถี่สูงนี้เอง หากเครื่องมีการปรับความถี่ไม่ได้มาตรฐาน ควบคุมพลังงานได้ไม่ดี หรือมีการปรับพลังงานไม่สมดุลกับบริเวณที่ทำการรักษา ก็จะส่งผลเสียต่อผู้ทำการรักษาได้ เช่น
- การปรับพลังงานสูงเกินความจำเป็น จะทำให้ผิวเกิดอาการไหม้ หรือบวมพองได้
- หากปรับพลังงานต่ำเกินไป อาจเกิดจากเครื่องไม่แม่นยำ จะทำให้การรักษานั่นไม่เห็นผลและเสียเวลาเปล่า
- อาจมีอาการปากเบี้ยว หรือตาตกชั่วคราว หากมีการปล่อยพลังงานโดนเส้นประสาทบนใบหน้า
- อาการบวม จะเกิดขึ้นภายหลังจากนั้นประมาณ 2 – 3 วัน
- อาการเจ็บระบมใต้ผิวหนังประมาณ 3 – 10 วัน
ในส่วนของผลการรักษาคล้ายกันกับเครื่อง Potenza เพียงแต่มุ่งเน้นไปในการสลายไขมันส่วนเกินในชั้นผิวหนัง และการสลายเซลลูไลท์ตามร่างกาย หรือที่เรียกกันว่า “ ผิวเปลือกส้ม ” โดยหลังจากการรักษาจะค่อย ๆ ดีขึ้นในระยะเวลา 3 – 6 เดือน และอยู่ยาวนาน 1 – 2 ปี
เรามาลองเปรียบเทียบกันดีไหมว่า องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยคุณตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการได้หรือไม่ ?
Potenza
ชนิดคลื่นพลังงานความถี่ : Radio Frequency
โหมดพลังงาน : 4 โหมด ได้แก่ MONOPOLAR, BIPOLAR 1 MHz และ 2 MHz
การเสริมการบำรุงผิวด้วยสารอาหาร และวิตามิน : มีอยู่ในขั้นตอนเดียวกัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังรับการรักษา :
- อาจมีรอยแดง และจะหายไปได้เองในเวลา 3 – 4 ชั่วโมง
ระยะเวลาฟื้นฟู : ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 6 – 12 เดือน
Thermage
ชนิดคลื่นพลังงานความถี่ : Radio Frequency
โหมดพลังงาน : 1 โหมด คือ MONOPOLAR
การเสริมการบำรุงผิวด้วยสารอาหาร และวิตามิน : –
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังรับการรักษา :
- อาจมีอาการบวม และหายไปเอง ประมาณ 2 – 3 วัน
- อาจมีอาการเจ็บระบมใต้ผิวหนัง ประมาณ 3 – 10 วัน
- อาจมีอาการปากเบี้ยว หรือตาตกชั่วคราว ถ้าปล่อยพลังงานโดนเส้นประสาทบนใบหน้า
- อาจมีรอยไหม้ หรือบวมพอง หากมีการใช้พลังงานมากเกินไป
ระยะเวลาฟื้นฟู : ประมาณ 3 – 6 เดือน
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน : ประมาณ 1 – 2 ปี
Moriko Plus Clinic
คลินิกพร้อมให้บริการ
Moriko Plus Clinic
มาพร้อมห้องหัตถการใหม่ กว้างขวางเป็นส่วนตัว
บริการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ยกกระชับ
ให้คำปรึกษา
และออกแบบรูปหน้าโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ทุกเคส
Moriko Plus Clinic
ที่คลินิกมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาก่อนเข้ารับการบริการ มาพร้อมห้องหัตถการใหม่ กว้างขวางเป็นส่วนตัว บริการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ยกกระชับ ให้คำปรึกษา และออกแบบรูปหน้าโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ทุกเคส