ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร?

สารบัญ

          เมื่ออายุมากขึ้น ผิวที่เต่งตึง จะเริ่มมีริ้วรอยตื้น ๆ เกิดขึ้นให้เห็น หลังจากนั้น จะเริ่มลึกขึ้น เริ่มหย่อนคล้อย คอลลาเจนใต้ชั้นผิวเริ่มลดลง กระดูกบนใบหน้ายุบตัวลง ทำให้เกิดปัญหาบนใบหน้าต่าง ๆ เช่น ร่องลึก ริ้วรอย 

          ด้วยสาเหตุเหล่านี้ ทำให้ฟิลเลอร์ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาร่องลึก ริ้วรอยบนใบหน้า และยังช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว

ฟิลเลอร์ คืออะไร ?

          ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มสำหรับผิว ประเภท ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเลียนแบบธรรมชาติที่ร่างกายเราสามารถสร้างขึ้นเอง และสลายได้เอง

          ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการเติมเต็มร่องริ้วรอย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต เติมร่องลึกบนใบหน้า และปรับรูปหน้าได้ อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท ?

การจัดประเภทของฟิลเลอร์ แบ่งตามการคงอยู่ของฟิลเลอร์ ได้ 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler)

          ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว เป็นฟิลเลอร์ ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ผ่านสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (
อย.ไทย) คือ ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA 

          จากการที่ HA เป็นสารเลียนแบบธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง สามารถอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler)

          ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยรองลงมาจาก ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว เพราะไม่สามารถสลายได้หมด 100% มักใช้สารเหล่านี้ เช่น สาร PLLA (Poly-L-lactic acid) สารแคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite)

          หากฉีดฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรไปเป็นเวลานาน ๆ อาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน และเกิดการอักเสบตามมาได้

3. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)

          ฟิลเลอร์แบบถาวร เป็นฟิลเลอร์ที่อยู่ถาวร หรืออยู่ได้นาน เพราะไม่สามารถสลายได้เอง ทำให้ตกค้างในชั้นผิว และมีผลข้างเคียงในระยะยาว คือ ฟิลเลอร์ไหล กลายเป็นพังผืด หรือฟิลเลอร์ย้อยผิดรูป มักเป็นสารเติมเต็มประเภท ซิลิโคน หรือพาราฟิน

          การรักษาผลข้างเคียงจากฟิลเลอร์แบบถาวรนั้น จะต้องใช้วิธีขูดออก หรือผ่าตัดออกเท่านั้น การฉีดสลายฟิลเลอร์ไม่สามารถทำให้ฟิลเลอร์แบบถาวรสลายได้หมด

ไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) คืออะไร ?

          ในชั้นใต้ผิวหนังของร่างกายเราจะมีสารหนึ่งที่ช่วยสร้างความชุ่มชื่น ให้ความยืดหยุ่นแก่ชั้นผิว สารนั้น มีชื่อว่า ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกว่า “HA”

          และได้มีการทำสารเลียนแบบสารเติมเต็มที่มีโครงสร้างเหมือนสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเอง โดยคนทั่วไปมักเรียก ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ประเภท
ไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เป็นฟิลเลอร์เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติ
โดยองค์การอาหาร และ ยา ของสหรัฐอเมริกา หรือเรียกว่า US FDA

          ฟิลเลอร์ชนิดนี้ นิยมใช้ในวงการแพทย์ และ ความงามอย่างหลากหลาย เนื่องจากสามารถสลายได้เอง 100% จึงไม่มีสารตกค้าง และสามารถฉีด หรือเติมได้เรื่อย ๆ ตามที่ต้องการ

ฟิลเลอร์ช่วยอะไรบ้าง ?

          จากการที่ฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ จึงสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง และ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต

          นอกจากนี้ ยังนิยมฉีดฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้า หรือโครงสร้างต่าง ๆ บนใบหน้า อย่างเป็นธรรมชาติ 

  • การฉีดฟิลเลอร์ช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ ชะลอวัย
  • การฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผลเป็น
  • สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมได้เรื่อย ๆ
  • ฉีดฟิลเลอร์แล้ว เห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น
  • ฟิลเลอร์แท้ สามารถสลายได้เอง 100% โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง

ฟิลเลอร์เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกบริเวณผิวหน้า เช่น ใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวให้สดใส เปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์อยู่เสมอ
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ผ่าตัด
  • ผู้ที่มีความกังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ ?

  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา 
    ในฟิลเลอร์บางชนิด จะมียาชาผสมอยู่ เพื่อความปลอดภัย คนไข้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
    อย่างละเอียด หากมีประวัติการแพ้ยา (ไม่ว่าจะแพ้ยาอะไรก็ตาม)
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร 
    ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ ส่วนคุณแม่ให้นมบุตร การฉีดฟิลเลอร์
    จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม ?

  • ฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid เป็นฟิลเลอร์ที่สลายได้เอง จึงไม่เป็นอันตราย
  • การฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่ใช่การทำหัตถการที่มีความเสี่ยงสูง หรืออันตราย
  • สิ่งสำคัญคนไข้จะต้องเลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน
  • แพทย์มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ของแท้ สลายได้เองตามธรรมชาติ ได้รับการรับรองจาก อย. และสามารถตรวจสอบได้

ฟิลเลอร์ปลอม ฉีดแล้ว อันตรายไหม ?

          หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปลอม  ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมนั้น  จะเป็นก้อน เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ คัน เป็นผื่น ทำให้รูปหน้าเสียทรง หากร้ายแรงอาจอันตรายถึงขั้นทำให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือด เมื่อไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอม จะนำไปสู่การเกิดภาวะภาวะเนื้อตาย (Skin Necrosis)

วิธีเลือกฟิลเลอร์ให้ปลอดภัย

1. ศึกษาหาข้อมูล ดูจุดสังเกตของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น

2. ฟิลเลอร์แท้ หมอจะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และอธิบายรหัส LOT  วัน เดือน ปี ที่ผลิตของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น ที่อธิบายอยู่บนกล่อง และบนหลอดฟิลเลอร์

3. หลังฉีดเสร็จให้คนไข้เก็บกล่อง หรือถ่ายรูปไว้ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้

วิธีเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์

  1. ต้องฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน และมีความน่าเชื้อถือ
  2. ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ในการฉีดเท่านั้น
  3. เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีเทคนิกที่ถูกต้องในการฉีดฟิลเลอร์
    และแพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์
  4. เลือกคลินิกที่มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

รีวิว จากผู้ใช้บริการจริง

Loading